พฤกษาชู 4 ภารกิจใหญ่สร้างความเข้มแข็ง ทุ่มงบลุยธุรกิจ New Corporate Venture

0 Comments

“ซีอีโอ” คนใหม่พฤกษา โฮลดิ้งฯ “อุเทน โลหชิตพิทักษ์” ชู 4 ภารกิจใหญ่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนสู่นิว เอสเคิร์ฟใหม่ ลุยธุรกิจ New Corporate Venture ทุ่มงบ 3,500 ล้านบาท ผสานนวัตกรรมดิจิทัลลงทุนธุรกิจใหม่ มุ่งจับเทรนด์อนาคต ดึงจุดแข็งผู้นำธุรกิจอสังหาฯ Synergy รพ.วิมุต นำเสนอบริการตอบโจทย์ลูกค้าพฤกษา โชว์โครงสร้างทางการเงินแกร่ง เสริมด้วยสภาพคล่องกว่า 12,000 ล้านบาท ปรับขนาดโครงการอสังหาฯ ปิดการขายไวไม่เกิน 2-3 ปี วางเป้ายอดขายอสังหาฯ เพิ่มขึ้น 23% เป็น 31,000 ล้านบาท และยอดโอนเพิ่มขึ้น 18% เป็น 33,000 ล้านบาท เล็งผุดธุรกิจสร้างรายได้ประจำ ขยายบริการธุรกิจด้านสุขภาพ

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ เปิดแถลงข่าวครั้งแรกหลังเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอในบริษัทพฤกษาฯ ว่า วันนี้จะเป็นการนำเสนอภาพเชิงกลยุทธ์ โดยที่เรามุ่งในเรื่องสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทิศทางธุรกิจของพฤกษาในปี 2565ที่จะเกิดขึ้น วางไว้ 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

(1) ปรับ Portfolio มุ่งลดสินค้าคงค้างลง ส่งผลให้ระดับหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนของพฤกษา อยู่ในฐานการเงินที่แข็งแกร่งระดับ 0.36 เท่า เป็นตัวเลขที่ต่ำพอควร นั่นหมายความว่า เรามีความเข้มแข็งทางด้านการเงิน ซึ่งข้อดีส่วนนี้สามารถนำมาเสริมพอร์ตต่อกลยุทธ์ของเรา โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คณะทำงานของพฤกษาทำงานได้ดีมาก สามารถลดสินค้าคงค้างลงจนมีกระแสเงินสดเข้ามาสู่ธุรกิจถึง 12,000 ล้านบาท รวมถึงจะเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์บ้านระดับกลางถึงบนมากขึ้น

(2) เสริมแกร่งธุรกิจหลัก ด้วยการจัดสรรที่ดินในมือ 157 ผืน มูลค่าถึง 15,400 ล้านบาท บริหารโครงการที่อยู่อาศัยระหว่างการพัฒนา 145 โครงการ มูลค่าเกือบ 80,000 ล้านบาท และมียูนิตพร้อมอยู่ที่พร้อมแปลงเป็นรายได้ 2,300 ยูนิต

(3) การประสานความร่วมมือ (Synergy) ใน 2 ธุรกิจหลักของพฤกษา ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงพยาบาลวิมุตในเครือเอง โดยจะปรับสินค้าและบริการให้ตรงกับพฤติกรรมของลูกค้าที่ถูกกระทบจากโควิด-19 การนำความสะดวกสบายเข้าไปอยู่ในบ้านพฤกษา การออกแบบฟังก์ชันใหม่ๆ และเสริมเรื่องสุขภาพเข้าไป ขณะเดียวกัน ยังเปิดให้บริการศูนย์ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงวัยในโครงการ

และสุดท้ายได้แก่ (4) การสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการนำนวัตกรรมมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ตามหลัก ESG และการลงทุนใน Corporate Venture Fund วงเงิน 3,500 ล้านบาท เพื่อมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตามเทรนด์โลกอนาคต ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการลงทุน การร่วมเป็นพันธมิตร (Partnership) และการทำ Outside-in Innovation โดยมุ่งเน้นใน 2 ด้านที่จะมาสนับสนุนธุรกิจหลัก ได้แก่

(4.1) PropTech เช่น โซลูชันที่มุ่งส่งเสริมการสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า การขายและการตลาดดิจิทัล Smart Home IOT Senior Living / Nursing Home เป็นต้น และ (4.2) Health Tech มุ่งเน้นแพลตฟอร์มเกี่ยวกับบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานธุรกิจสุขภาพ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดต้องคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจ Clinical Laboratories, Digital Heath และ Genomic Labs ที่สิงคโปร์ อีกทั้งยังมีการจัด Bootcamp เพื่อคัดเลือกทีม External Venture Building จากทีมที่สมัครเข้ามามากกว่า 100 ทีม และขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการลงทุนสตาร์ทอัปในต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มลงทุนในเดือนมีนาคมนี้ และทั้งหมดนี้จะเป็นการต่อห่วงโซ่ธุรกิจของพฤกษา โฮลดิ้ง ให้แข็งแกร่งขึ้น จากความร่วมมือกันระหว่างองค์กรและ Innovation Technology ของบริษัท Startup ได้เป็นอย่างดี

“ปีนี้เราตั้งบลงทุนไว้ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ในเรื่องเชิงกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทฯ โดยมีส่วนของงบลงทุนนอกพฤกษา วงเงิน 3,500 ล้านบาท และงบที่เหลืออีก 6,500 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ และธุรกิจโรงพยาบาล”

ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาฯ ปีนี้น่าจะเติบโตได้ระดับ 10% โดยแผนธุรกิจจะมุ่งเปิดโครงการใหม่ตลาดแนวราบมากขึ้น ใช้บิสิเนสโมเดลใหม่ที่เน้นตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า และเลือกเปิดโครงการที่มีศักยภาพสูง กระจายทุกโครงการ ขนาด 20-30 ไร่ต่อโครงการ บริหารการขายไม่เกิน 2-3 ปี โดยรุกกลุ่มเรียลดีมานด์เซกเมนต์รายได้ระดับกลางถึงสูงมากขึ้น ซึ่งวางแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 31 โครงการ มูลค่าประมาณ 16,300 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ 22 โครงการ บ้านเดี่ยว 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ

เป้าหมายเชิงผลการดำเนินงาน ยอดขายปีนี้อยู่ที่ 31,000 ล้านบาท (เติบโต 23%) และยอดโอน 33,000 ล้านบาท (เติบโต 18%) โดยจะมีคอนโดมิเนียมอีก 7 โครงการที่จะส่งมอบในปีนี้มูลค่า 2,900 ล้านบาท เพื่อรองรับเป็นรายได้ในปีนี้ และในช่วง 8 ไตรมาสที่ผ่านมา ด้วยกลยุทธ์ราคาและโปรโมชัน ทำให้สามารถลดสินค้าคงค้างไปได้ จาก 23,300 ล้านบาท เหลือเพียง 7,500 ล้านบาท ทำให้ในไตรมาสแรกนี้ยังคงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องด้วยแคมเปญ “มั่งมีศรีสุข” มอบอั่งเปาและข้อเสนอพิเศษ เช่น นอยู่ฟรี สูงสุดนาน 24 เดือน สิทธิส่วนกลางฟรี สูงสุดนาน 36 เดือน หรือฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน รวมมูลค่าสูงสุด 4 ล้านบาท สำหรับแคมเปญนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันนี้-31 มี.ค.2565

ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้วิมุตมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมด้าน Digital Healthtech เช่น Application, Telemedicine และการบริการที่ตอบรับการดูแลผู้ป่วยกลุ่ม NCDs เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ล่าสุด ได้ออกโปรแกรม Total Senior Solution เพื่อดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการดูแลผู้สูงอายุถึงบ้าน โดยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว การร่วมกับพฤกษาปรับฟังก์ชนบ้านให้เหมาะกับผู้สูงวัย การออกแบบให้มีทางลาดสำหรับรถเข็น การติดตั้งราวจับภายในบ้าน ที่นั่งอาบน้ำ พื้นกันกระแทก โดยเริ่มทำแล้วในโครงการของพฤกษา

สำหรับความคืบหน้าโครงการ ViMUT Health Center ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง ได้เริ่มดำเนินการแห่งแรกแล้วที่โครงการพฤกษา อเวนิว บางนา-วงแหวน จะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2565 นอกจากนี้ ยังมีแผนที่พัฒนาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในโครงการคอนโดมิเนียมของพฤกษาทำเลในเมืองที่มีศักยภาพในอนาคตอีกด้วย

“ปีนี้เราเข้าสู่โหมดแผนงานตามปกติ ซึ่งคาดว่าเราจะมีรายได้ทั้งจากการบริการและให้บริการในเรื่องการฉีดวัคซีน ที่มีโคตาอยู่ 1.8 แสนเข็ม ซึ่งลูกค้ารับรู้ในแบรนด์วิมุตมากขึ้น มีการเข้ามาดูเว็บถึง 2 ล้านคน ประกอบกับการที่ รพ.วิมุต อยู่คู่กับพฤกษา เราจะได้ประโยชน์ ตอนนี้วิมุตจะเป็นคู่ไปกับพฤกษา การอยู่คู่กัน ทำให้เรามีต้นทุนลดลง ทั้งเรื่อง การแชร์บุคลากร แชร์เรื่องเงินลงทุน และไอที ที่สามารถช่วยลดต้นทุนลดลงไปด้วย ขณะเดียวกัน พฤกษาจะเข้าไปในกลุ่มคนได้มากขึ้น”

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket