ตลาดผ่อนคลายกังวล หนุน SET INDEX ปิด +0.70 จุด ลุ้นจีนคลายล็อกเมืองคุมโควิด-ปัจจัยต่างประเทศ
หุ้นไทยปิดตลาด +0.70 จุด นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยบวกรับบรรยากาศตลาดหุ้นเอเชียสดใสโดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกง หลังจีนส่งสัญญาณบวกเตรียมคลายมาตรการล็อกเมืองคุมโควิด ผลักดันหุ้นเทคโนโนโลยีปรับตัวขึ้น และสหรัฐฯ โหวตผ่านการตรวจสอบ พร้อมมีแรงหนุนเข้าหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น มองแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดแกว่ง Sideway แนะจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและเงินเฟ้อ ตลอดจนการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐณ โดยประเมินแนวรับที่ 1,610 จุด และแนวต้านที่ 1,640 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 4 พ.ย.2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.70 จุด หรือ +0.04% โดยปิดตลาดที่ 1,626.32 จุด มูลค่าการซื้อขาย 63,702.24 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ดี แต่ทยอยปรับตัวลดลงในภาคบ่ายแต่ยังปิดตลาดในแดนบวก โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,635.93 จุด ขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,626.19 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 901 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 560 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 760 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -1,087.24 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -530.80 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดีต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +831.95 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +786.09 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,612.79 ล้านบาท ปิดที่ 192.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
2.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,718.48 ล้านบาท ปิดที่ 187.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,189.33 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,810.60 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,552.01 ล้านบาท ปิดที่ 74.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PLANBปิดที่ 7.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท หรือ 4.76%
2.BEC ปิดที่ 10.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท หรือ 4.62%
3.RCL ปิดที่ 28.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 4.59%
4.PSL ปิดที่ 14.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 4.29%
5.KCE ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.35%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.INTUCH ปิดที่ 70.75 บาทลดลง 1.75 บาทหรือ 2.41%
2.ADVANC ปิดที่ 187.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.35%
3.CPN ปิดที่ 67.50 บาทลดลง 1.25 บาท หรือ 1.82%
4.RATCHปิดที่ 40.75 บาทลดลง 0.75 บาท หรือ 1.81%
5.TTB ปิดที่ 1.37 บาทลดลง 0.02 บาทหรือ 1.44%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,224.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.86 จุด หรือ 0.13% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 989.77 จุด เพิ่มขึ้น 0.12 จุด หรือ 0.01% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 645.20 จุด ลดลง -0.58 จุด หรือ -0.09%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นรับบรรยากาศการลงทุนตลาดเอเชียสดใส โดยตลาดหุ้นฮ่องกง (+5.36%) และตลาดหุ้นจีน (+2.43%) ขึ้นมาแรงจากความคาดหวังจีนลดการคุมเข้มมาตรการโควิด และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นได้ดี หลังจากทางการสหรัฐฯ เข้ามาตรวจสอบความถูกต้องและความโปร่งใสที่ฮ่องกงเสร็จแล้วน่าจะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวขึ้นมาด้วย
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่ทั้งนี้ภาพรวมเริ่มมีแรงขายสลับออกมาบ้าง ระหว่างรอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรชองสหรัฐฯ คืนนี้ และสัปดาห์หน้าติดตามการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ และเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าคาดว่าแกว่งตัว Sideway ช่วงที่จะมีการประกาศงบการเงินออกมามากขึ้น ขณะที่รอปัจจัยในสหรัฐฯ อาจทำให้ตลาดไปไหนไม่ไกล พร้อมให้แนวรับที่ 1,610 จุด แนวต้านที่ 1,640 จุด