ใกล้ไทยทุกขณะ! สิงคโปร์พบแล้ว 2 รายติดเชื้อโควิดตัวกลายพันธุ์ ‘โอมิครอน’

0 Comments

สิงคโปร์เจอผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์ “โอมิครอน” 2 รายแรกในวันพฤหัสบดี (2 ธ.ค.) กลายเป็นชาติล่าสุดที่พบตัวกลายพันธุ์นี้ ซึ่งมีการกลายพันธุ์มากมายหลายตำแหน่ง และแอฟริกาใต้รายงานการตรวจพบเป็นประเทศแรก

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า ทั้งสองรายเป็นเคสนำเข้าจากโยฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พวกเขามีผลตรวจเบื้องต้นเป็นบวกและถูกกักโรคตั้งแต่เดินทางมาถึง

ถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อทั้งสองยังไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับชุมชน และยังไม่พบหลักฐานการแพร่ระบาดในชุมชน

หนึ่งในเคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอน เป็นผู้พักอาศัยถาวรในสิงคโปร์ที่บินมาจากโมซัมบิก และต่อเครื่องบินที่โยฮันเนสเบิร์ก ส่วนอีกคนเป็นชาวสิงคโปร์ที่บินตรงมาจากแอฟริกาใต้ ทั้งสองคนมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบิน

เวลานี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด และเบื้องต้นผู้โดยสาร 19 คนบนเที่ยวบินเดียวกันมีผลตรวจออกมาเป็นลบ

จนถึงวันพฤหัสบดี (2 ธ.ค.) มีมากกว่า 20 ประเทศที่พบเคสผู้ติดเชื้อยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ในนั้นรวมถึงออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร เยอรมนีและสหรัฐฯ ส่วนในเอเชีย ฮ่องกง ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพิ่งรายงานพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดเป็นเคสนำเข้า

องค์การอนามัยโลกจัดให้ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน และเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกเมื่อวันพุธ (1 ธ.ค.) คาดหมายว่าจำนวนประเทศที่พบเชื้อตัวกลายพันธุ์ดังกล่าวจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

พวกนักวิทยาศาสตร์พยายามหาคำตอบว่าตัวกลายพันธุ์นี้แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าตัวกลายพันธุ์เดลตาหรือไม่ และวัคซีนจะมีประสิทธิภาพลดลงในการรับมือกับมันหรือเปล่า ในเรื่องนี้ เทดรอส เผยว่า คณะที่ปรึกษาขององค์การอนามัยโลกได้พบปะกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อประเมินหลักฐานต่างๆ ที่กำลังปรากฏขึ้น แต่เน้นย้ำถึงความสำคัญของวัคซีน

สิงคโปร์เป็นหนึ่งชาติที่มีอัตราฉีดวัคซีนสูงที่สุดในโลก ในบรรดาผู้มีสิทธิฉีดวัคซีน ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วราวๆ 96% และในนั้นประมาณ 27% ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกาะแห่งนี้เริ่มผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ทั้งด้านชายแดนและภายในประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป

เมื่อวันศุกร์ (26 พ.ย.) กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แถลงว่า่ ชาวต่างชาติและผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนักถาวรซึ่งมีประวัติเดินทางไปยังแอฟริกาใต้ บอตสวานา เอสวาตินี เลโซโท โมซัมบิก นามิเบีย และซิมบับเว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสิงคโปร์ หรือใช้สิงคโปร์เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทาง (transit) โดยมาตรการนี้จะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันอาทิตย์ (28 พ.ย.)

ส่วนพลเมืองสิงคโปร์หรือชาวต่างชาติที่เป็นผู้พำนักถาวรในสิงคโปร์ยังคงสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตามปกติ ทว่าจะต้องผ่านกระบวนการกักตัว 10 วัน

(ที่มา : เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์/เอเจนซี)