‘ยืมมั้ย’ จับมือ ‘บิทคับ บล็อคเชน’ พร้อมลุยให้เช่าสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งแรกในไทย

0 Comments

“ยืมมั้ย” (Yuemmai) ผู้ให้บริการด้านสินค้าไอที โทรคมนาคม การเงินดิจิทัล และเทคโนโลยี และบิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี (Bitkub Blockchain Technology) ผู้สร้างและดำเนินการ Bitkub Chain เครือข่าย Blockchain ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของไทย เปิดตัว “YES” (เยส) โทเคนใหม่ล่าสุด พร้อมแพลตฟอร์ม “ยืมมั้ย.digital” ให้บริการเช่าสินทรัพย์ดิจิทัลได้ครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 โชว์ความสำเร็จก้าวแรกมูลค่าเหรียญ ณ วันเปิดตัว 28 บาท พุ่งสูงเกือบเท่าตัวถึง 43 บาทเพียงข้ามคืน เตรียมลุยปั้นเหรียญ YES เต็มกำลัง ชูไฮไลต์สามารถใช้เหรียญในชีวิตจริงได้ผ่านการยืมสินค้าและบริการใน Ecosystem ของเครือ “ยืมมั้ย” และตั้งเป้าขยายตัวสู่เหรียญตลาดอาเซียนภายในปี 2566

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับเหรียญ “YES” ผลงานความร่วมมือเขย่าวงการคริปโตฯ เมืองไทย ระหว่างบริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด รวมถึงพันธมิตรสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีแถวหน้าของประเทศไทยอย่างบริษัท ฟินสเตเบิ้ล จำกัด และบริษัท เวลธิเทคฟิน จำกัด ภายใต้มูลค่าลงทุนกว่า 500 ล้านบาท โดยมูลค่าเหรียญ YES เริ่มต้น 28 บาท (ณ วันเปิดตัว) จากนั้นราคาได้พุ่งสูงสุดถึง 43 บาทภายในวันเดียวกัน สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของเหรียญต่อนักลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี

นายสุทธิเกียรติ กิตติภัทรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เหรียญ YES คือก้าวแรกของการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการพัฒนาระบบการตลาดของ “ยืมมั้ย” เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และมอบผลตอบแทนให้ลูกค้ายืมมั้ย ที่อยู่ใน Ecosystem ภายใต้ร่มของ “ยืมมั้ย โฮลดิ้ง” และทำให้เหรียญ YES สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ผ่านการยืมสินค้าในเครือยืมมั้ย เช่น ยืมสินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน และรถ และยังสามารถใช้เหรียญ YES เพื่อนำไปใช้ค้ำประกันการเช่าสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาสในการลงทุนในโลกดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น”

เหรียญ YES เป็นโทเคนที่ได้รับการรับรองโดยบิทคับ เชน (Verified by Bitkub Chain) โดยเป็นเหรียญที่นำมาใช้ในชีวิตจริงได้ สามารถใช้ยืมสินค้าและบริการที่อยู่ใน Ecosystem ในเครือ “ยืมมั้ย โฮลดิ้ง” ได้แก่ เครดิตซิม ยืมมั้ย Finance ยืมมั้ย Online และยืมมั้ย Blockchain โดยลูกค้าและผู้ใช้บริการของ “ยืมมั้ย โฮลดิ้ง” จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ YES เพื่อนำไปใช้ค้ำประกันการเช่าสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม “ยืมมั้ย.digital” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการให้เช่าสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสในการลงทุนในโลกดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่ถือเหรียญ YES ครบ 10 เดือนสามารถซื้อ-ขาย (เทรดได้) ในตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (List on bitkub Exchange) โดยหลังจากนี้ “ยืมมั้ย” มีแผนพัฒนาเหรียญ YES ให้เป็นเหรียญที่สามารถโหวต และมีสิทธิในระบบการเทรดได้อย่างโปร่งใส (Governance Function) ในอนาคต

สำหรับแพลตฟอร์ม “ยืมมั้ย.digital” เป็นแพลตฟอร์มที่ผสมผสานระหว่างการเงินแบบรวมศูนย์และแบบกระจายศูนย์ (CeDeFi) ครั้งแรกในไทย ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท ฟินสเตเบิ้ล จำกัด (Finstable) บริษัทฟินเทคที่อยู่ระหว่างขอรับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 100 ล้านบาท โดย CeDiFi เป็นระบบสมาร์ทคอนแทรกต์อัจฉริยะที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ ซึ่งใช้ข้อดีของระบบ Centralized ผสานข้อดีของระบบ Decentralized มีความปลอดภัยสูงเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการลูกค้า 24 ชั่วโมง และทำให้ลูกค้าได้ผลตอบแทนสูงเช่นกันแพลตฟอร์ม “ยืมมั้ย.digital” เปรียบเสมือนเป็นมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ของค่ายสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ที่เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ โดยเหรียญสกุลแรกที่จะเปิดให้เช่า คือ KUSDT (เหรียญในตระกูล Bitkub Next) ตามมาด้วยสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 6 สกุล ที่รู้จักกันอย่างดีบนกระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซี โดยค่าเช่าสินทรัพย์ดิจิทัลคิดเป็นร้อยละ 30 ต่อปีของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่เช่าไป ผ่านการพิจารณาจำนวนเช่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้เช่าสามารถเช่าได้ด้วยระบบ Credit Scoring ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนาของบริษัท เวลธิเทคฟิน จำกัด สตาร์ทอัปผู้พัฒนาแอปพลิเคชันผลิตภัณฑ์ทางการเงินบนมือถือที่ได้รับใบอนุญาตพิโกไฟแนนซ์จากกระทรวงการคลัง ด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำและทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การสมัครสินเชื่อที่ดีที่สุด โดย “ยืมมั้ย” ได้ตั้งเป้าขยายตัวสู่เหรียญตลาดอาเซียนภายในปี 2566 นี้

ผู้สนใจเหรียญ YES สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปบนแพลตฟอร์ม “ยืมมั้ย.digital” และจะได้รับเหรียญ YES AirDrop แจกฟรีให้ลูกค้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (จนกว่าจะหมด) จำนวนจำกัดเพียง 2,500,000 เหรียญ (75 ล้านบาท) ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ยืมมั้ย.digital

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket